It’s not other people’s words and actions, but rather our own identity that dictates our reaction to a situation. For example, just this past week, I announced we would be holding a staff meeting the following week. With a love for gatherings and absent residual guilt over any past actions, two employees excitedly started planning the drinks and food for the “party.” Meanwhile, another employee immediately asked a coworker to swap shifts so that she could avoid being present for the meeting. To her, the meeting was about being ambushed for her misdeeds. Same meeting, different reactions.
There’s always some basis in our minds that colors the words and actions that we perceive. If we see ourselves a certain way, we will see another’s words or actions as a support or challenge to that identity. Our reaction is entirely dependent on us. That’s why, whenever something bothers us, it’s useless to point blame at others or make excuses for their actions. The only way to fix our reaction is by looking inwards.
ความรู้สึกที่เรามีต่อเหตุการณ์ไม่ได้มาจากคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น แต่มาจากตัวตนของเรานี่เอง อาทิตย์ที่แล้วได้ประกาศกับพนักงานว่าจะมีการประชุมกันในอาทิตย์หน้า ทันทีที่แจ้งให้ทราบ มีพนักงาน สองคนที่ชอบเฮฮาปาร์ตี้ ดีใจและอาสาเอาน้ำเอาขนมมาที่ประชุม สำหรับสองคนนี้ ประชุมเป็นโอกาสดีที่จะได้ปาร์ตี้กัน ในขณะเดียวกันมีพนักงานอีกคนหนึ่งรีบขอร้องให้เพื่อนสลับเวรเพื่อที่จะไม่ต้องอยู่ที่ร้านในวันประชุมนั้น สำหรับพนักงานคนนี้ การประชุมในครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนรุมจัดการด่าว่าเขาสำหรับสิ่งที่เขาเคยทำกับคนเพื่อนร่วมงานทุกๆ คน ประชุมก็อันเดียวกัน แต่ความรู้สึกแตกต่างกันมากมาย
ในใจเราจะมีฐานที่เราเอามาใช้ในการแปลคำพูดการกระทำที่เราสัมผัสจากภายนอก พอเราเห็นตัวตนของเราเป็นแบบนึง เราก็จะเห็นว่าคำพูดหรือการกระทำของคนอื่นไม่สนับสนุนก็ค้านอัตตาตัวตนของเรานั้น ความรู้สึกที่เราจะมีก็มาจากข้างในใจเราล้วนล้วน ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเรารู้สึกไม่พอใจ เราไม่ควรมองออกนอกหรือพยายามแก้ตัวให้คนอื่น วิธีที่จะแก้ปัญหาก็คือมองมาข้างในที่ตัวเราว่า เราเห็นตัวตนของเราเป็นอย่างไรถึงมีความรู้สึกไม่พอใจนี้เกิดขึ้นได้
No Comments