Pumpkin Cake

image

I brought homemade pumpkin cake to share with my co-workers. I asked one of them, “How do you like it?”  She said, “It’s good, but you know what was tasty, that banana bread you made last time.”

I immediately thought, “Oh I didn’t know she liked my banana bread. I’ll make sure to bake her some real soon.”

That’s because I like her. If I didn’t like her, I’d likely think, “What an unappreciative brat. Nothing is ever enough. She always want something else, something more.”

Honestly, it doesn’t really matter what is said or how it is said. What matters more is what I think of the person. With someone I’m determined to like, I’ll make all kinds of excuses in order to feed my love for them. But for someone I’m determined to dislike, I’ll make all kinds of excuses to prove how much they are worthy of my hatred.

And, who doesn’t do this? Once we stamp a label on someone, many times based solely on our the first impression of them or some sort of arbitrary detail, we selectively process all new incoming data to reinforce that label. How is this fair to ourselves? It’s like setting ourselves up for disappointment when the people we love fall short of our expectations. It’s training ourselves to suffer when the people we hate do… well, just about anything.

If we can catch ourselves gathering selective cues to lend weight to our labels, then we can begin to see how arbitrary all that “proof” really is. And then maybe we’ll begin to realize how our labeling was flawed from the start. Deep down, we know that nothing and no one is entirely good or bad. The good has its bad and the bad has its good. So why should we continue to see people in our one-sided way?

ทำขนมเค้กไปให้ลูกน้องกิน ถามเขาว่าชอบไหม เขาตอบว่า “ก็ดี แต่ชอบขนมอีกแบบมากกว่า เค้กกล้วยหอมที่ทำครั้งก่อน”

เราก็คิด เออ ไม่รู้ว่าน้องเขาชอบเค้กกล้วยหอมของเรา ก็ดี จะได้จำว่าเขาชอบและทำให้กินอีกเร็วๆ นี้

นี่คิดแบบนี้เพราะเราชอบน้องเขา ถ้าไม่ชอบก็คงคิดไปอีกแบบ “เออดี จำไว้ ทำอะไรให้ก็ไม่เคยพอนะ ต้องอยากได้อะไรมากกว่านี้เสมอ”

พูดอะไรก็ได้ น้ำเสียงอย่างไรก็ได้ เพราะถ้าเราตัดสินใจว่าชอบแล้ว พูดอย่างไรก็ดีหมด ฟังขึ้น น่ารัก ทำให้เรารักสุดขาดใจเลย แล้วพอตัดสินใจว่าไม่ชอบแล้ว คำพูดและน้ำเสียงแบบเดียวกันก็ว่าไม่ชอบ เหม็นขี้หน้า รำคาญ น่าเกลียดชังน้ำหน้าจริงๆ

ใครบ้างที่ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง บางทีตัดสินใจว่าชอบไม่ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ประทับใจในจุดเล็กๆ จดจำความรู้สึกที่ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ เสร็จแล้วเราก็จะเริ่มเลือกและกรองข้อมูลให้สนับสนุนความชอบหรือไม่ชอบนั้น ไม่เห็นจะยุติธรรมกับตัวเราเลย มีแต่ทุกข์กับทุกข์ ทุกข์เมื่อคนที่เรารักทำไม่ตรงความหวังของเรา ทุกข์เมื่อคนที่เราไม่ชอบทำ…. ก็ทำอะไรก็ผิดหมดแหละ

ถ้าเราจับตัวเราเองได้ว่า กำลังบีบข้อมูลให้ลงหลุมที่เราขุดเอาไว้ เราจะเห็นว่าเราขาดความยุติธรรมแค่ไหนจริงๆ เราจะเห็นว่า “หลักฐาน” ของเราไม่ควรเรียกว่าหลักฐานเลย และที่ชอบไม่ชอบมันถูกสนับสนุนด้วยหลักฐานพวกนี้มาตลอด แล้วเรายังควรเชื่ออยู่ไม่แหละ ว่าคนนี้ดีอย่างเดียว ว่าคนนั้นไม่มีดีเลย มันพร่องตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว เราก็รู้แก่ใจนิว่า ดีก็มีไม่ดี ไม่ดีก็มีดี แล้วทำไมเรามองแต่ข้างเดียว ไม่ฉลาดเลย….

No Comments

Leave a Reply

Your email is never shared.Required fields are marked *